วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

15เทคโนโลยี "เลเซอร์" รักษาอาการ "ภูมิแพ้

https://www.sanook.com/health/12405/ เทคโนโลยี "เลเซอร์" รักษาอาการ "ภูมิแพ้

เทคโนโลยี "เลเซอร์" รักษาอาการ "ภูมิแพ้" : การรักษาโดยการใช้เลเซอร์ จะทำการยิงเลเซอร์ไปที่ตัวเซ็นเซอร์ที่รับและสัมผัสได้ไวในโรคภูมิแพ้ จะอยู่ที่ปลายจมูกบริเวณด้านหน้า เพื่อไปทำลายตัวรับสัญญาณภูมิแพ้ให้ทำงานน้อยลง โดยจะไม่เกิดปฏิกิริยากระตุ้นสารก่อภูมิแพ้อีก ทำให้ผู้ป่วยหายใจได้โล่งขึ้น จากนั้นจะมีการปรับสภาพของเส้นเลือดเเละเยื้อบุ และประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะมีสะเก็ดแผล แล้วเพียงกลับมาเอาสะเก็ดออก ก็จะมีความรู้สึกโล่งจมูก อาการภูมิแพ้ลดลง ปริมาณการใช้ยาก็ลดลง 

การวิเคราะห์ข่าว : นวัตกรรมนี้ืถืิอเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ เพราะว่าสามารถลดอาการภูมิแพ้ได้ แถมลดการใช้ยาอีกด้วย

14'โดรน' เทคโนโลยีใหม่เพื่อลดค่าใช้จ่ายเเละเพิ่มผลผลิต

'โดรน' เทคโนโลยีใหม่เพื่อลดค่าใช้จ่ายเเละเพิ่มผลผลิต

ทีมนักวิจัยกล่าวว่า ภายในเวลา 10 ปีข้างหน้า โดรนอาจกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำการเกษตรเเบบอัฉริยะ หรือการเกษตรกรรมที่มีความเเม่นยำสูงสำหรับเกษตรกรทั่วโลก 

โดรนที่ติดตั้งตัวเซ็นเซอร์หลายแบบสามารถบินเหนือไร่ได้เพื่อเก็บข้อมูลให้กับทีมนักวิจัย เพื่อช่วยในการระบุจุดที่มีปัญหา และช่วยตรวจพืชที่เติบโตเป็นปกติดี ทีมนักวิจัยกล่าวว่า ปัญหาส่วนมากที่พบในปัจจุบันเกิดจากวัชพืชที่ดื้อต่อยาฆ่าหญ้า และวัชพืชที่หลุดรอดจากมาตรการควบคุม เเละจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต และเเทนที่ต้องฉีดยาฆ่าหญ้าทั้งไร่ เกษตรกรจะสามารถใช้โดรนในการฉีดยาฆ่าหญ้ายาเฉพาะในจุดเป้าหมายเท่านั้น แต่ในขณะนี้ ทีมนักวิจัยกล่าวว่า โดรนช่วยให้คนที่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนสามารถบันทึกภาพวิดีโอหรือภาพนิ่งได้ เพื่อตรวจตราดูไร่นาทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ได้

สรุปและวิเคราะห์ข่าวได้ว่าในปัจจุบันโดรนสามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น เช่น สามารถถ่ายรูปหรือวิดีโอได้ เปรียบเสมือนตำรวจออกตรวจตามพื้นที่ต่างๆ และจากข่าวข้างบน ทำให้ทราบอีกว่าโดรนสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และคอยฉีดยาฆ่าหญ้าให้ได้https://www.voathai.com/a/drones-in-agriculture/4525221.htmlhttps://www.voathai.com/a/drones-in-agriculture/4525221.html

13สรุป 5 ไฮไลต์ 'Galaxy Note 9' พร้อมราคาเปิดตัวและโปรฯ จากค่ายมือถือ

สรุป 5 ไฮไลต์ 'Galaxy Note 9' พร้อมราคาเปิดตัวและโปรฯ จากค่ายมือถือ

สรุป 5 ไฮไลต์ Galaxy Note 9 : 
1. S Pen ปากการุ่นใหม่นี้ สามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธแบบ Bluetooth Low-Energy ส่งผลให้คุณสามารถสั่งการผ่าน S Pen เหมือนการใช้งานรีโมตคอนโทรล
2. แบตเตอรี่ กาแลคซี่ โน้ต 9 มาพร้อมกับความจุมากถึง 4,000 mAh นับเป็นสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุด 
3. ความเร็วของเครื่อง ประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลังสูงสุดในปัจจุบัน จึงสามารถรองรับเครือข่ายที่เร็วที่สุดในขณะนี้ ที่ความเร็ว 1.2 กิกะบิตส์ต่อวินาที 
4. กล้อง มาพร้อมกับกล้องหลังกล้องคู่ Dual Camera ละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีฟีเจอร์ Scene Optimizer 
5. ดีไซน์ภายนอก ดีไซน์ภายนอกใหญ่กว่ารุ่นเดิมเพียง 0.1 นิ้วเท่านั้น 

การวิเคราะห์ข่าว : โทรศัพท์มือถือรุ่น Samsung Galaxy Note 9 นี้ถือว่ามีจุดซื้อจุดขายอยู่ที่กล้องและ S Pen เป็นส่วนมาก เนื่องจาก S Pen เชื่อมต่อกับบลูทูธแบบ Bluetooth Low-Energy ส่งผลให้สามารถสั่งการผ่าน S Pen เหมือนการใช้งานรีโมตคอนโทรล ส่วนกล้องนั้นมาพร้อมกับกล้องหลังกล้องคู่ Dual Camera ละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีฟีเจอร์ Scene Optimizer ทำให้ผู้คนที่ต้องการจะถ่ายรูปแต่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อกล้องนั้นหันมาซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้แทน นี่จึงเป็นจุดขายของโทรศัพท์ Samsung รุ่นนี้

12สายรัดข้อมือเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อดูแลสุขภาพ

 https://www.thairath.co.th/content/1355153
สายรัดข้อมือเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อดูแลสุขภาพ : สายรัดข้อมืออัจฉริยะนี้ใช้วัสดุเป็นพลาสติกติดตั้งแผงวงจรที่มีความยืดหยุ่น โดยมีไบโอเซนเซอร์เครื่องตรวจวัดทางชีวภาพ ออกแบบให้มีลักษณะเป็นท่อบางกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผม พร้อมกับฝังขั้วไฟฟ้าสีทองไว้ภายใน แผงวงจรจะเป็นตัวประมวลผลสัญญาณไฟฟ้าเพื่อส่งข้อมูลแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ โดยไบโอเซนเซอร์จะทำหน้าที่นับจำนวนอนุภาคอย่างเซลล์เม็ดเลือด รวมถึงวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

การวิเคราะห์ข่าว : เทคโนโลยีดังกล่าวจะ ทำให้ผู้สวมใส่สายรัดข้อมือสามารถติดตามตรวจสอบสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังบ่งบอกได้อีกด้วยว่าผู้สวมใส่สายรัดข้อมือเป็นโรคอะไร 

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561

11.โรลส์รอยซ์เปิดแผนลุยแท็กซี่บินได้




เป็นผู้ผลิตเคื่องยนต์สำหรับสัญชาติอังกฤษ คาดว่าจะเปิดตัวภายใน18เดือน เพื่อไห้ทันออกบริการภาคในปี2563
โรลส์รอยซ์
ถือเป็นอีก1ผู้ผลิตที่กำลังเข้าเเข่งขันในสมรภูมิอากาศยานเเท็กซี่ โดยเปิดตัวเเท็กซี่ไฮบริดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในงาน fram borough international airshow
เเละยานที่เตรียมตัวภายใน18 เดือนนี้มีชื่อว่า electric vertical take-off and landing จุได้ประมาณ4-5คน
บินได้ระยะทางยาวประมาน805 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทั้งนี้โรลส์รอยซ์ใช้งบประมาณในการพัฒนายานไฮบริดไปเเล้ว10ล้านปอนด์ คิดเป็นไทยราว420ล้านบาท ซึ้งเครื่องยนต์ทำงานโดยระบบไฟฟ้า
เเละเราจะเห็นยานนี้ไห้บริการภายใน3-5ปี เเละคาดหวังว่าสามารถโชว์ต้นเเบบเเละสาธิตยานพาหนะชนิดนี้ได้ภายใน2ปีข้างหน้า



โรลส์รอยซ์เปิดเเผนลุยเเท็กซี่บินได้

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2561

10.Garmin เปิดตัวฟิตเนสแทรคเกอร์ใหม่ Vivosmart 4 วัดระดับออกซิเจนในเลือดได้

              Garmin เปิดตัวฟิตเนสแทรคเกอร์ใหม่ Vivosmart 4 
                            วัดระดับออกซิเจนในเลือดได้



มาเปิดตัวภายในงานจัดแสดงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป IFA 2018 (31 ส.ค. – 5 ก.ย.) ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
โดยีลักษณะพิเศษกว่าตัวอื่นๆ คือ ได้เพิ่มตัววัดระดับออกซิเจนในเลือดด้วย
 (Pluse OX2 Oximeter) 
โดยปกติเเล้วเเพทย์จะใช้oximeter ติดที่ปลายนิ้วเพิ่มใช้วัดระดับออกซิเจนในเลือด
ด้วยอุปกรณ์ดังกล่าวนี้ ทำให้ผู้ใช้ Vivosmart 4 สามารถตรวจดูได้ว่าการหลับนั้นมีคุณภาพมากเพียงไร หรือแม้กระทั่งตรวจว่าเกิดภาวะหยุดหายใจในขณะหลับหรือไม่
นอกจากนี้ Vivosmart 4 ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ อีก ดังนี้
  • ตรวจวัดการเต้นของหัวใจได้
  • ใช้งานได้ 7 วัน จากการชาร์จเพียง 1 ครั้ง
  • เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth
  • สามารรับข้อความแจ้งเตือน และตอบข้อความได้ (สำหรับสมาร์ทโฟนระบบ Android)
  • ซึ้งอุปกรณ์นี้สามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ดูเเลสุขภาพเเละผู้ที่ชอบออกกำลังกาย

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561

True Tone จาก Apple ยังทำงานได้กับหน้าจอของค่ายอื่นๆ ได้เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น

True Tone จาก Apple ยังทำงานได้กับหน้าจอของค่ายอื่นๆ ได้เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น


ซึ้งตอนนี้  apple ได้ออกประกาศว่ารุ่นที่สามารถรับรอง true tone ก็คือรุ่นApple Thunderbolt Display ที่เชื่อมต่อจอผ่านอะแดปเตอร์ที่แปลงจากช่องพอร์ต Thunderbolt 3 เป็น Thunderbolt 2 รวมถึงหน้าจอ LG UltraFine 5K และปิดท้ายด้วย LG UltraFine 4K
True Tone คือเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยวัดแสงในพื้นที่และปรับให้สมดุลการแสดงสีให้ถูกต้อง รวมถึงปรับความเข้มของสีสันบนหน้าจอนั้นให้ง่ายต่อการมองมากยิ่งขึ้น และในตอนนี้ก็มีให้ใช้กันบน iPhone X, iPhone 8 และ 8 Plus รวมถึงบน iPad Pro อีกด้วย
การที่ Apple เริ่มให้หน้าจอที่ผลิตโดยบริษัทอื่นๆคาดว่าเป็นการค่อยๆ ขยายการบริการนี้ออกไปสู่ภายนอกอย่างช้าๆ  Apple เองก็น่าจะตั้งใจคัดสรรหน้าจอที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อมารองรับเทคโนโลยีนี้อย่างเข้มข้นอีกด้วย